Welcome to Sysnet Board คู่มือ การใช้งานอุปกรณ์ Network. Please log in or sign up.
สมาชิกทั้งหมด
17,621
กระทู้ทั้งหมด
10,058
หัวข้อทั้งหมด
4,727

  • คู่มือการ Config Draytek Vigor Series เบื้องต้น
    เริ่มโดย yod
    Read 3,312 times
0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้
yod

 

 
คู่มือการ Config Draytek Vigor Series เบื้องต้น


ตัวอย่าง มี Internet 2 เส้น


Internet 1
แบบ PPPoE โดย Modem ที่ได้จาก ISP ทำการ set เป็น Bridge และขอ Username/Password รวมถึง IP Public จากทาง ISP เรียบร้อยแล้ว (ติดต่อโดยตรงกับทาง ISP เพื่อทำการ Set Modem เป็น Bridge รวมถึงขอ Username/Password และ IP Public ในกรณีที่ Modem ที่ใช้งานอยู่ Set เป็น Bridge Mode ไม่ได้ อาจจะต้องให้ทาง ISP เปลี่ยนอุปกรณ์ Modem รวมทั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในกรณีขอ IP Public)

ข้อดีคือ IP ที่ WAN ของ Draytek จะได้เป็น Public IP สามารถเชื่อมต่อจากภายนอกเข้ามาได้ / Forward Port รวมถึงการนำไปวางเป็น VPN ที่ฝั่งสาขาหลัก


Internet 2
แบบ DHCP Client ต่อเข้ากับ Modem ที่ได้จาก ISP ไม่ต้อง Set อะไรที่ตัว Modem ข้อดีคือง่าย แต่จะไม่สามารถเชื่อมต่อจากภายนอกเข้ามาได้ เช่นการทำ Forward Port และไม่สามารถทำเป็น VPN ฝั่งสาขาหลักได้ แต่ทำเป็น VPN ที่ฝั่งสาขาย่อยได้

*** ถ้าหมายเลข IP ของ Modem Internet 2 เป็น 192.168.1.1 และ ต้องการให้ IP ของ Draytek เป็น 192.168.1.1 ด้วย ต้องทำการเปลี่ยน IP ของ Modem ให้เป็นวง Network อื่น เช่น 192.168.2.1 ติดต่อกับทาง ISP เพิ่อเปลี่ยนหมายเลข IP ***



1. เชื่อมต่อสาย Lan จาก Modem ของผู้ให้บริการ Internet โดยที่ Internet 1 ต่อเข้า Port WAN1 และ Internet 2 ต่อเข้า WAN2


2.  เชื่อมต่อสาย Lan จาก PC เข้า Port Lan ของ Draytek (ส่วนใหญ่จะมีคำว่า P ตามด้วยหมายเลข Port)


3. เปิด Browser พิมพ์ 192.168.1.1 ที่ช่อง URL
Username/Pasword: admin/admin





4. เข้า Menu WAN --> Internet --> Access

4.1 เปลี่ยนรูปแบบการเชื่อมต่อ Internet ของ WAN1 ซึ่งเป็นแบบ PPPoE --> Click [Detail]




Tab PPPoE
Click [Enable]
Username/Password: PPPoE Username/Password ที่ได้จาก ISP



Click [OK]


จะมีการแจ้งให้ Reboot Router กด OK




รอประมาณ 2-3 นาที ให้ทำการเข้าผ่าน IP: 192.168.1.1 อีกครั้ง


ถ้า Config ตัว Modem เป็น Bridge และใส่ PPPoE Username/Password ถูกต้อง ที่หน้า Dashboard ในรายละเอียด WAN1 จะได้ IP จากผู้ให้บริการ Internet มา แต่ถ้าไม่ได้ให้โทรสอบถามกับทาง ISP อีกครั้ง






ทดสอบเข้า Internet ถ้าง่ายๆ ให้พิมพ์ cmd ที่ช่อง run จากนั้นพิมพ์ ping www.google.com จะต้องมี Reply กลับมา





4.2 กำหนด WAN2 ให้เป็นแบบ DHCP โดย Default จะถูกกำหนดไว้แบบนี้ ไม่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม





ตรวจสอบที่ Dashboard จะได้ IP ทั้ง WAN1 และ WAN2




5. ตรวจสอบ Mode Loadbalance ตั้งค่าตามรูปได้เลยครับ

Menu WAN --> General Setup






6. กรณีต้องการเปลี่ยนหมายเลข IP ของ Router

ตัวอย่างต้องการเปลี่ยน IP เป็น 192.168.5.1

Menu LAN --> Geral Setup LAN1 --> Click [Details Page]





กำหนด
IP Address: 192.168.5.1
Start IP Address: 192.168.5.10
Gateway IP Address: 192.168.5.1
DNS Primary: 8.8.8.8





Click [OK] จะ Restart อีกรอบ ครั้งนี้รอประมาณ 3 นาที ให้ดึงสาย Lan จาก PC ออกแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่

จากนั้นเข้าผ่าน Browser ด้วย IP 192.168.5.1



7. ถ้าต้องการทำ VPN วางที่สาขาใหญ่ หรือ Forward Port กรณีที่เชื่อมต่อ Internet แบบ PPPoE แล้ว รวมถึงขอ Public IP แต่ไม่ได้สมัคร Fix IP ไว้ (ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 1000 บาท)  ต้องสมัครใช้บริการ Dynamic DNS ของ dyndns, no-ip หรือ Draytek DDNS


Menu Application --> Dynamic DNS

Click [Enable] --> Click [Index 1]




ใส่รายละเอียด Hostname, User/Password




ตรวจสอบถ้าข้อมูลถูกต้องจะ Updated สำเร็จ







8. ถ้าต้องการให้ Remote จากภายนอกเข้ามา Config/Monitor อุปกรณ์ Draytek ได้ (ดูรายละเอียดข้อ 7 ให้เรียบร้อยก่อน)

Menu System --> Maintenance --> Management

Enable: [Allow Management from the internet]
เอาเครื่องหมายถูกที่ Disable PING from the Internet





Click [OK]

เวลาอยู่ข้างนอกให้พิมพ์ https://[ชื่อ Hostname ที่ตั้งไว้]





เรียบร้อยครับ