การขยายหมายเลข IP Address เพื่อแก้ปัญหา Router แจก IP เต็ม

การขยายหมายเลข IP Address เพื่อแก้ปัญหา Router แจก IP เต็ม

ปัญหาที่พบบ่อยๆ เวลาเชื่อมต่อเครือข่าย อาจจะผ่าน Smart Phone, Tablet หรือ PC คือ หมายเลข IP ที่ Router ไม่พอแจกครับ พอ Device เชื่อมต่อเข้ามา ก็จะไม่ได้รับหมายเลข IP พอไม่ได้หมายเลข IP ก็ออก Internet ไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาแบบเส้นผมบังภูเขาจริงๆ  




ทำไมถึงไม่พอ?


โดยปกติ ค่า Default ของ Router ส่วนใหญ่ หมายเลข IP จะเป็น 192.168.1.1 ซึ่งเป็น IP Class C ใช้ Subnet Mask เป็น 255.255.255.0 หรือ ถ้าใน Linux หรือ อุปกรณ์ Router บางรุ่นอาจจะใช้เป็นค่าว่า Mask Bits 24 (เช่นใน Mikrotik 192.168.1.1/24) จะหมายถึงแจก IP ได้ตั้งแต่ 192.168.1.2 - 192.168.1.254 เท่ากับ 253 IP ไม่รวมตัว Router และ IP ที่เราเอาไปใส่ในอุปกรณ์ Network ต่างๆเช่น Access Point


แล้ว 253 IP มันยังไม่พออีกเหรอ?


คือ..ถ้าใช้งานลักษณะ Home Use สำนักงานขนาดเล็ก ผู้ใช้เดิมๆ ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่ถ้าเป็นโรงแรม คอนโด หอพักขนาดใหญ่ มี User มากหน้าหลายตา มีการเปลี่ยนเครื่อง Device ที่เชื่อมต่อกันประจำ มันจะมีอาการ IP ไม่พอแจก


กระบวนการแจก IP ใน Router หรือที่เรียกกัน DHCP มันจะอาศัยระยะเวลาประมาณนึง ทีนี้ตัว Router มันต้องการลดระยะเวลาตรงนี้ เช่นเชื่อมต่อปุ๊บ ใช้งานได้เลย มันก็เลยต้องจำครับ จำว่า MAC Address ที่เชื่อมต่อเข้ามา ให้ IP อะไรไป พอจำเสร็จ มันก็จองหมายเลข IP นี้ให้กับ MAC Address เบอร์นี้ไว้เลย เชื่อมต่อครั้งต่อไป มันก็จะแจก IP เบอร์นี้ให้

และตัว Router มันจะมีระยะเวลาการจำหมายเลข IP กับหมายเลข MAC Address ไว้ด้วย จะเรียกว่าค่า Lease Time การกำหนดค่านี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ใน Menu Network/ LAN ที่เกี่ยวกับ DHCP Server มีหน่วยเป็นนาที หลักๆก็จะจำกันอยู่ประมาณ 3 วัน ถ้าเครื่องหรือ MAC Address เบอร์นี้ ได้ IP เบอร์นี้ แล้วไม่มีการเข้ามาในระบบเกิน 3 วัน มันก็ลบทิ้ง


ปัญหาคือ ถ้ามีเครื่องใหม่ หรือ MAC ใหม่เชื่อมต่อเข้ามาใหม่เรื่อยๆ IP มันก็เลยหมด ไม่มีแจกครับ



ทางแก้


1. แบบง่ายสุด ปรับค่า Lease Time ให้ต่ำลง เช่น 3 ชั่วโมง หรือ 180 นาที แต่ที่บอกข้างต้น กระบวนการแจก IP ถ้าเครื่องที่เชื่อมต่อเข้ามาใหม่ มันช้าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ


2. แก้ Class IP ซะ ข้อนี้เหนื่อยนิดนึง ถ้ามีอุปกรณ์ Network อื่นๆพ่วงต่อ แล้วเรา Fix IP เอาไว้ ต้องนั่งไล่แก้กันหมด และ Router พวก Home use จะเปลี่ยน Class IP ไม่ได้นะครับ ได้เต็มที่ก็ Class C แต่..ส่วนใหญ่จะตั้งช่วงค่าของการแจก IP กันไว้น้อยๆ เช่น 192.168.1.100 - 192.168.1.150 ก็ใช้วิธีไปเพิ่มเอาครับ อาจจะเพิ่มเป็น 192.168.1.100 - 192.168.1.250 (แต่ถ้าเชื่อมต่อกันเยอะๆ Router พวกรุ่นเล็กๆ แฮ้งก์แน่นอนครับ)


25/04/2560
เพิ่มเติมครับ...ลูกค้าที่ใช้ Ubiquiti Unifi AP ทำการ Config ผ่าน Router ที่บ้าน แล้วเจอปัญหา Adopt ไม่ผ่าน ให้ลองตรวจสอบ Length IP ของ Router ด้วยนะครับ ว่ามีพอแจกให้กับ Unifi ที่มาเชื่อมต่อด้วยหรือไม่ เพราะ Ubiquiti UNIFI เมื่อ Config ครั้งแรก มันจะต้องรับ IP จาก Router ครับ


วิธีการคำนวน IP มันมีครับ แต่ยากไปหน่อย เอาแบบง่ายๆคือเข้า web www.subnet-calculator.com/


ขั้นต้น กำหนดคร่าวๆ ว่าเราต้องการจำนวน IP ที่เท่าไหร่ ถ้าเป็นโรงแรม ก็เผื่อไปเลย 1,000 IP




Click ตรง Network Class เป็น Class B

IP Address ใส่เป็น 172.16.0.1
Subnet Mask: 255.255.252.0 ถ้าใส่ใน Mikrotik ดูที่ Mask Bit จะเป็นหมายเลข 22
Host Per Subnet คือจำนวนหมายเลข IP เป็น 1,022 IP (น่าจะพอแล้วครับ)
Host Address Range ในรูป 172.16.0.1 - 172.16.3.254 ความหมายคือ DHCP Range ถ้าเอาไปใส่ใน Mikrotik --> IP Pool ก็ใส่ตามนี้ได้เลย แต่เผื่อ IP Address เอาไว้ Fix ให้กับอุปกรณ์ Network อื่นๆด้วยก็ดีครับ อาจจะเผื่อไว้ 100 IP พอเอาไปใส่ใน Pool ก็ใช้เป็น 172.16.0.101 - 172.16.3.254 พวกอุปกรณ์ Network อื่นๆเราก็ Fix เป็น 172.16.0.2 - 172.16.0.100


ถ้าใส่ใน iBSG ก็ประมาณนี้ครับ



IP Address: 172.16.0.1
Subnet Mask: 255.255.252.0
Start: 172.16.0.101
End: 172.16.3.254



ทีนี้มีคำถามต่อ มันแจก IP เรียงกันยังไง?


มันจะไล่ตามนี้ครับ ตัวเลขชุดที่ 4 มันจะเป็นค่าสูงสุดคือ 254 พอเกิน 254 เลขตัวต่อไปมันจะไม่ใช่ 255 มันจะไปเพิ่มหลักที่ 3 อีก 1 และหลักที่ 4 ก็เริ่มที่ 1 ต่อ

เช่น แจก IP ไปแล้ว 172.16.0.254 เลขตัวต่อไปจะเป็น 172.16.1.1 พอแจกจนถึง 172.16.1.254 ตัวต่อไปก็จะเป็น 172.16.2.1 แจกไปเรื่อยๆจนเลขสุดท้ายเป็น 172.16.3.254



แต่...ถ้ามีการใช้ IP กันเยอะๆ หมายถึง Online เชื่อมต่อเครือข่ายพร้อมๆกัน เป็น หลายๆร้อย หรือ หลักพัน เครือข่ายมันจะอืดเพราะ Broadcast นะครับ มองเหมือนห้องประชุมพันคน ตามองไม่เห็นกัน จะรู้ว่าใครอยู่ต้องตะโกนถามกันก่อนว่าอยู่มั้ย พออีกฝ่ายตอบถึงได้คุยกัน วุ่นวายแน่นอน อันนี้ต้องไปทำ VLAN แก้ไขกันครับ เหมือนแยกห้องละร้อยคนไปเลย (ยากขึ้นอีกหน่อย)

ผมเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพกันง่ายๆนะครับ อาจคลาดเคลื่อนไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะครับ