Welcome to Sysnet Board คู่มือ การใช้งานอุปกรณ์ Network. Please log in or sign up.
สมาชิกทั้งหมด
17,614
กระทู้ทั้งหมด
10,048
หัวข้อทั้งหมด
4,720

  • คู่มือการ Config Reyee Wi-Fi Bridge เพื่อทำ Point To Point
    เริ่มโดย yod
    Read 4,613 times
0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้
yod

 

 
คู่มือการ Config Reyee Wi-Fi Bridge เพื่อทำ Point To Point


ตอนนี้ทาง Ruijie ได้ออก Wireless Bridge มา 2 รุ่น สำหรับทำ Point To Point โดยในชุดจะมาเป็น Pack คู่เลย ทางร้านได้ทำ Review ไว้ อยู่ใน Link นี้ครับ เชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกลด้วย Wireless Bridge


Ruijie RG-EST310
Ruijie RG-EST350


โดยรุ่น EST310 จะเป็น Port 100Mbps เหมาะกับงานเชื่อมต่อกล้อง IP-Camera เพราะไม่ได้ใช้ Bandwidth เยอะมากนัก ส่วนงานที่ต้องใช้ bandwidht สูงๆแนะนำเป็น EST350 ครับ เป็น Port Gigabit แต่ราคาก็ไม่ต่างกันมาก


;D;D มีราคา Pro สำหรับ SI และ ผู้ที่ต้องการติดตั้งนะครับ ทักมาทาง Line @sysnet ได้เลย เรามีราคาพิเศษ ;D;D



ตัวอย่างในหัวข้อนี้จะเป็นรุ่น EST350 ครับ


1. แกะกล่องออกมาก็จะเจออุปกรณ์ EST350, Passive POE, ชุดติดตั้ง





2. อุปกรณ์ WIFI Bridge จะแบ่งเป็นฝั่งปลายทาง (ป้าย Camera End ขอเรียกว่าฝั่ง Site) และ ฝั่งต้นทางที่ต่อเข้า Router (ป้าย Recoder End ขอเรียกว่าฝั่ง Main)







3. การจ่ายไฟผ่าน POE เสียบสาย Lan จาก POE Injector ช่อง POE มาที่ Port Lan ของ WIFI Bridge ช่อง LAN1/POE

ต่อแบบนี้ให้ครบทั้ง 2 ตัว ทั้งฝั่ง Main และ Site ต่อลอยๆยังไม่ต้องต่อเข้า Router ก็ได้ครับ




4. ติดตั้ง App Ruijie Cloud บน Smart Phone ถ้ายังไม่เคยลองเล่น ลองอ่านหัวข้อนี้คร่าวๆ ถึงข้อ 3 ดูก่อนครับ คู่มือการใช้งาน Ruijie Cloud App เบื้องต้น


สร้าง Project เลือก "Yes Connect to WI-FI"





5. เลือก Wireless Bridge แล้ว Click [Start]





จะแสดงหน้ารายละเอียดให้เชื่อมต่อสัญญาณ WIFI ที่ชื่อ @Ruijie-bxxx (xxx เป็นหลายเลขฐาน 16) จากนั้น Click (Connect)





มือถือจะสลับมาที่หน้า Connect WIFI จะมี 2 ชื่อโผล่ขึ้นมา ตรงนี้เรียกว่า WIFI Management เลือกเกาะซักชื่อนึง







หลังจากเกาะสัญญาณ WIFI-Management เรียบร้อย กลับมาที่ App Ruijie Cloud ให้ Click [Next]







กำหนด Management Password และชื่อ Project




เรียบร้อยครับ





ไฟสถานะจะขึ้นตามระดับความแรงของสัญญาณ




6. เลือก Country Code เป็น Thailand





7. การเข้าจัดการ Project จะมี 2 แบบ คือแบบ On-Site หมายถึงเราเชื่อมต่อ WIFI Managment ที่ Site งาน กับ แบบ On-Cloud จะเป็นการเข้าผ่านระบบ Cloud คือ เราอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่หน้างานครับ

แตกต่างกันตรงที่ถ้าเป็นแบบ On-Site เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆเช่น WIFI  management ได้

ส่วน On-Cloud อุปกรณ์ WIFI Bridge ฝั่ง Main ต้องมีการเชื่อมต่อ Internet (ต่อเข้า Router)










8. Working Mode

เป็นการปรับ Channel Width ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่เราไปติดตั้งครับ ยิ่งความกว้างของสัญญาณมาก ความเร็วก็จะได้มากขึ้น แต่ก็อาจจะโดนรบกวนจากสัญญาณที่ปล่อยจากอุปกรณ์ของคนอื่นได้สูงขึ้น

ถ้าสัญญาณชนกันเยอะ จะกลายเป็นช้าลงครับ






Statndard Mode: Channel Width 40MHz เหมาะกับพื้นที่ ที่มีอุปกรณ์ปล่อยคลื่น 5GHz ไม่มากนัก ความเร็วที่ได้จะกลางๆประมาณ 200-300Mbps (ขึ้นอยู่กับระยะทาง)

ทดสอบโยนไฟล์ ประมาณ 280Mbps




High Bandwidth Mode: Channel Width 80MHz เหมาะกับสถานที่ ที่ไม่มีอุปกรณ์ที่ปล่อยคลื่น 5GHz ความเร็วที่ได้จะสูงสุดประมาณ 300Mbps ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับระยะทาง)

ทดสอบโยนไฟล์ ประมาณ 400Mbps




Anti-Inferference Mode: Channel Width 20MHz เหมาะกับสถานที่มีอุปกรณ์ที่ปล่อยคลื่น 5GHz เยอะมากๆ สัญญาณเขาจะมากวนกะของเรา ความเร็วที่ได้จะค่อนข้างต่ำอาจจะได้ไม่ถึง 150Mbps (ขึ้นอยู่กับระยะทาง)

ทดสอบโยนไฟล์ ประมาณ 144Mbps





9. ถ้า WIFI Bridge สามารถออก Internet ได้ จะสามารถ Managed และ Monitor ผ่าน Cloud ได้เลยครับ




10. กรณีต้องการเปลี่ยนชื่อ WIFI Management หรือปิดไม่ให้ปล่อย WIFI ชื่อนี้ออกมา เข้าที่ Menu Wi-Fi Management ครับ

แนะนำให้เปลี่ยน Password เผื่อกรณีมีปัญหา อุปกรณ์ออก Internet ไม่ได้ แต่ต้องการเข้าไปจัดการ WIFI Bridge




11. เมื่อ Config เสร็จเรียบร้อยก็ต่ออุปกรณ์ เช่น Network Switch, IP Camera เข้ากับ Port LAN 2 ได้เลย






เรียบร้อยครับ ;);)