Review Reyee RG-EW300T Wireless 4G LTE Router ใส่ SIM รองรับ Mnaged/Monitor ผ่าน Ruijie Cloud การ Config ง่าย
- ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณแล้ว
- จัดส่ง
- รวมทั้งสิ้น ฿0.00
การใช้อุปกรณ์ Loadbalance รวมความเร็ว Internet ร่วมกับ iBSG Server
คู่มือการ Config อุปกรณ์ Loadbalance เพื่อรวมความเร็ว Internet ใช้ร่วมกับ iBSG Server
ในกรณีที่ลูกค้าใช้อุปกรณ์ Loadbalance รวมความเร็ว internet ร่วมกับ iBSG Server, Firewall Gateway หรือ ระบบ Authentication อื่นๆ
การ config ในอุปกรณ์ Loadbalance จำเป็นต้องทำให้ถูกต้องด้วยครับ ไม่งั้น Internet ออกแค่เส้นเดียว เส้น Internet ที่เหลือจะทำหน้าที่แค่ Backup หรือ Fail Over ครับ
เพราะอะไร Internet ถึงออกแค่เส้นเดียว ถ้าเรา Config ไม่ถูกต้อง?
จากตัวอย่าง IBSG Server ถือว่าเป็นอุปกรณ์ Router/Firewall โดยขา WAN ทำการ Fix IP เป็น 192.168.10.10 ต่อเข้าที่ Lan ของ Loadbalance Draytek Vigor300B มี IP เป็น 192.168.10.1
ใน Mode Loadbalance ของ Draytek Vigor300B จะมีให้เลือก 2 Mode คือ IP Based และ Session Based
Mode IP Based
จะเป็นการกำหนดเลยว่า IP ต้นทาง นั้นๆ ออกที่ Wan ไหน ซึ่งรูปแบบการเลือกนี้จะขึ้นอยู่กับ algorithm ของ Loadbalance นั้นๆ ตัวอย่าง IP ต้นทางคือ IP ขา WAN ของ iBSG (192.168.10.10) ทีนี้ถ้า LoadBalance มันเลือกให้ IP เบอร์นี้ออก Internet True ข้อมูลรวมๆที่มาก็จะออก Internet True ทั้งหมด โดยที่ Internet 3BB ไม่ได้ใช้เลย
การเลือก Mode IP Based จึงเหมาะกับการที่มี Device เชื่อมต่อที่ฝั่ง Lan ของ Loadbalance หลายๆเครื่องครับ ตัว Loadbalance จะทำการ Share Load ให้เอง ให้สัมพันธ์กันกับความเร็วของ Internet แต่ละเส้น แต่ถ้ามีเครื่องเดียวคือ iBSG ตัว Loadbalance ก็จะ Fix ให้ออกเส้นเดียวตลอดเวลา จนกว่า Internet เส้นนี้จะล่ม หรือ ใช้งานไม่ได้ ถือว่าเสียตังค์ค่า Internet อีกเส้นฟรีๆ
อีก Mode นึงคือ Mode Session Based
ใน Mode นี้ ตัว Loadbalance จะจัดการให้ Session (เรียกว่าชุดของข้อมูลก็ได้ครับ) แต่ละชุดออก Internet เส้นที่กำหนด ซึ่งการกำหนดนี้จะขึ้นอยู่กับ algorithm ของ Loadbalance เช่นกันครับ มองภาพแบบง่ายๆคือ เราเข้า web นึง ใช้ session นึง เข้า web ที่ 2 ก็ใช้อีก session นึง แต่ละ session ก็อาจจะออก Internet เส้นที่ 1 หรือ เส้นที่ 2 ก็ได้ครับ
ทีนี้เวลามี data ที่มาจากฝั่ง Lan ของ iBSG (จากในรูปก็ประมาณ User เชื่อมต่อ Wifi เข้าใช้งาน Internet กันครับ) พอออกที่ฝั่ง WAN วิ่งไปที่ Loadbalance ตรงนี้ Session จะเยอะมาก ตัว Loadbalance ก็จัดการแยก Session ให้ออก Internet แต่ละเส้นที่เรามีเท่าๆกันครับ หรือตามสัดส่วนที่เรากำหนดเอาไว้ ใน Mode นี้จึงเหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
แต่ข้อเสียคือ เวลาเราเข้า Web ที่เป็น HTTPS เช่นพวก Web ธนาคาร ที่ต้องมีการ Login เข้าไปทำธุรกรรมต่างๆ Web Server พวกนี้จะมีการเก็บ IP ที่เรา Login เข้า Web เขาด้วยครับ
สมมุติช่วงที่เราเข้า Web แล้ว Login ช่วงนั้นออก Internet เส้น True ทาง WebServer จะเก็บหมายเลข IP ที่เราได้จาก True ไว้ พอเรากำลังทำ Transaction อาจจะเป็น โอนเงิน, click ปุ่มต่างๆบน web แล้วตัว Loadbalance มันดันส่งข้อมูลออกทาง Internet เส้น 3BB ซึ่ง IP จะเป็นอีกหมายเลขนึง ทาง Web Server มันตรวจสอบแล้ว ไม่ตรงกับ IP ที่ Login เข้ามา มันจะทำการ Disconnect เราครับ
อาการคือเราต้อง Login เข้า Web พวกนี้อยู่เรื่อยๆ วิธีแก้คือเราต้องระบุไปเลยครับว่า พวก Protocol HTTPS ให้ออก Internet เส้นไหนเป็นหลัก
ศัพท์พวกนี้จะเรียกว่า Policy/Protocol Base Routing ครับ ถ้าใน Draytek ก็แค่ Click เลือกไปเลย ว่าระบุ WAN ไหน ถ้า WAN นั้นล่ม ก็จะออกอีก WAN อัตโนมัติ
ในหัวข้อนี้จะเป็นการ Config กับอุปกรณ์ Loadbalance Draytek Vigor300B ครับ ถ้าแบบละเอียดเลยจะอยู่ในหัวข้อนี้ครับ การ Config Draytek Vigor300B ใน Mode Loadbalance
มี Internet 2 เส้น ของ True มีความเร็ว Download/Upload = 200Mbps/50Mbps และ ของ 3BB = 100Mbps/30Mbps
ใน Default Pool กำหนดความเร็วของ Wan1 และ Wan2
ใน Menu Routing --andgt; Default Route เลือก Load Balance Mode เป็น Session Based ครับ
ตรงหัวข้อ Exclude Service Type Object หลักๆคือเลือก HTTPS ครับ เป็นการกำหนดให้ Service HTTPS เป็น Mode IP Based
หรือจะระบุเป็นชื่อ Web ให้ออก Internet เส้นที่เรากำหนด ผมได้ทำคู่มือไว้แล้วครับ คู่มือการทำ Domain Name Route Policy ระบุให้ออก Website ตาม WAN ที่กำหนด
ทดสอบ
Test Speed ได้ 326Mbps (เวลา Test Speed มันจะเกินๆแบบนี้ล่ะครับ)
ทีนี้ผมก็ต่อ Loadbalance เข้ากับ iBSG และใช้มือถือเชื่อมต่อ Wifi ตาม Diagram ด้านบนเลยครับ อัดเป็น clip video บนมือถือไว้ครับ