Review TP-Link VIGI C540-4G กล้องใส่ SIM แบบ Outdoor รองรับการดู Video ผ่าน Cloud, Events Detection ได้หลายรูปแบบ
- ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณแล้ว
- จัดส่ง
- รวมทั้งสิ้น ฿0.00
การทำงาน Mode Loadbalance ใน Reyee EG Gateway
หลักการทำงานของ Mode Loadbalance ใน Reyee EG Gateway
อุปกรณ์ Reyee Gateway ที่รองรับ Loadbalance มีดังนี้ครับ
- EG100 Series 2 WAN Port, 600Mbps throughput
- EG10SGW(T) 4 WAN Port, 700Mbps throughput
- EG10SGW-X 4 WAN Port, 1.2Gbps throughput
- EG200 Series 4 WAN Port, 600Mbps throughput
- EG210G-E 4 WAN Port, 1Gbps throughput
- EG300 Series 4 WAN Port, 1.5Gbps throughput
- EG1510XS 9 WAN Port, 4Gps throughput
Loadbalance ใน Reyee EG Gateway มี 2 Mode หลักๆ
1. Mode Loading Balancing
เป็นการออกทุกๆ WAN ทุกๆช่วงเวลาที่ WAN ใช้งานได้ปกติ
มีแบ่งย่อยอีก 4 แบบ
1.1 Based on Connection
1.2 Based on Src IP
1.3 Based on Src and Dest IP
ทั้ง 3 แบบนี้จะเป็นการทำ Hasing (เป็น Algorithm รูปแบบนึง) เอาค่าที่เป็น Based On... ที่เลือกมาคำนวน หลักการจะคล้ายๆ Link Aggregate (LACP) ครับ แต่ข้อจำกัดของ LACP คือ Bandwidth Interface ของแต่ละเส้นต้องเท่ากัน และ กำหนด Weight ไม่ได้
ตัวอย่าง
มี WAN 3 เส้น เลือก Mode Based On Src IP and Dest IP เมื่อมี Packet วิ่งเข้ามาที่ Gateway ตัว Gateway จะนำค่า IP ต้นทาง กับ IP ปลายทางมาคำนวนเพื่อให้ได้ค่า x ขึ้นมา
จากนั้นจะมีการเลือกว่าจะส่ง Packet ไปยัง WAN ไหน โดยจะส่งไปแต่ละ WAN ตาม Weight หรือ อัตราส่วน ที่เรากำหนดไว้ และ WAN นั้นๆต้องใช้งานได้ปกติ
สมมุติว่ามี PC เชื่อมต่อในเครือข่ายอยู่ 4 เครื่อง PC#1,PC#2, PC#3 และ PC#4 เข้า Internet การผ่านเส้นทาง WAN ต่างๆ จะประมาณนี้ครับ
PC#1 มีการเข้า Website sysnetcenter.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x1
PC#1 มีการเข้า Website google.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x2
PC#1 มีการเข้า Website aws.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x3
PC#2 มีการเข้า Website sysnetcenter.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x4
PC#3 มีการเข้า Website sysnetcenter.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x5
PC#4 มีการเข้า Website sysnetcenter.com เมื่อ Hash แล้วได้ค่า x6
จากรูปจะเห็นว่าเรากำหนดอัตราส่วน WAN0, WAN1 เป็น 2 และ WAN2 เป็น 1
x1 (PC#1) --andgt; WAN0
x2 (PC#1) --andgt; WAN0
x3 (PC#1) --andgt; WAN1
x4 (PC#2) --andgt; WAN1
x5 (PC#3) --andgt; WAN2
x6 (PC#4) --andgt; WAN0
จะวนรอบไปเรื่อยๆ
ข้อดี
ไม่มีปัญหาเรื่อง Internet Banking
ข้อเสีย
ถ้า Hashing แล้ว ไปตกที่ WAN ที่มี Traffic มากๆ จะช้าไปเลย
ไม่ได้เป็นการรวมความเร็วแต่ละ WAN เมื่อใช้ Client Test Speed จะได้ความเร็วสูงสุดของ WAN ที่วิ่งออก
1.4 Smart Load Balancing
เป็น Mode Loadbalace ที่ทาง Ruijie แนะนำ
หลักการทำงานจะเป็นแบบนี้ครับ
- PC#1 เปิด Browser เข้า Website, เปิด App LINE ทาง Reyee Gateway จะตรวจสอบ Packet ที่เป็นระบบ L7 Application ว่าเป็น App อะไรบ้าง สมมุติเป็น App x1 (Webbrowser) และ x2 (Line)
- ทำการคำนวนการใช้ Traffic ของ Application ที่วิ่งเข้าออกในขณะนั้น
- ก่อนที่จะส่ง x1 และ x2 ไปยัง WAN จะมีการเลือกว่าจะให้ออก WAN ไหน ตัว Reyee Gateway จะนำค่า Bandwidth ที่กำหนดไว้, ค่า Traffic ของ WAN ที่วิ่งอยู่ในขณะนั้น WAN ไหนใช้งานได้ปกติ และรองรับ Traffic ได้ ก็จะส่ง x1 ไปวิ่งที่ WAN นั้น
ข้อดี
ถ้ามี Client จำนวนมากๆ จะช่วยจัดสรรเรื่อง Traffic ของแต่ละ Client ได้ดีมาก
ข้อเสีย
ไม่ได้เป็นการรวมความเร็วแต่ละ WAN เมื่อใช้ Client Test Speed จะได้ความเร็วสูงสุดของ WAN ที่วิ่งออก
2. Mode Active/Secondary
Mode นี้เรามักจะเรียกว่า Mode Failover จะมีเส้น WAN ที่เป็น Active จะทำงานอยู่ตลอดเวลา และอีก WAN ที่เป็น Secondary จะทำงานก็ต่อเมื่อ WAN Active มีปัญหาเช่น Internet Down
Mode นี้จะเหมาะกับใช้ Secondary WAN ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย 4g/5g เพราะมีการคิดเงินหรือจำกัดการใช้งานตามจำนวน Data Transfer
การตรวจสอบ Link Internet ของ Reyee Gateway
การทำงานของ Loadbalance สิ่งที่สำคัญมากๆคือ อุปกรณ์ต้องสามารถตรวจสอบได้ว่า Internet แต่ละ WAN สามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ การตรวจสอบแค่ Port Status มันไม่เพียงพอ
เพราะอะไร?
สมมุติ Internet ล่ม สาย Fiber ขาด ที่ต่อเข้า WAN 0 ถ้า ตัว Loadbalance ไม่รู้ว่า Internet ของ WAN 0 ใช้งานไม่ได้
และตัว Modem มันก็ไม่ได้ชำรุดอะไร Port Status ที่เชื่อมต่อระหว่าง Reyee Gateway กับ Modem จะปกติ ก็จะส่ง Packet ไปเรื่อยๆแล้วหาย ก็หมายถึงใช้งาน Internet ไม่ได้ครับ
ใน Reyee Gateway จะใช้วิธีตรวจสอบว่า Internet แต่ละ WAN ใช้งานได้หรือไม่ โดยการ Ping (ตะโกนไปถาม) ไปยัง Google ตามวงรอบเวลาที่กำหนดครับ ถ้าทาง google ไม่ตอบกลับมา ก็จะถือว่า Internet เส้นนั้นใช้งานไม่ได้ ก็จะทำการปิดเส้นทางนั้นซะ (ไม่ได้สั่ง Shutdown Port นะครับ) แต่ก็ยังมีการ Ping ไปเรื่อยๆอยู่ครับ..
Facebook comment