คู่มือการใช้กล้อง TP-Link VIGI ดูผ่าน Cloud แบบไม่มี NVR บันทึกลง Memory Card การ Config
- ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณแล้ว
- จัดส่ง
- รวมทั้งสิ้น ฿0.00
คู่มือการใช้กล้อง TP-Link VIGI ดูผ่าน Cloud แบบไม่มี NVR
คู่มือการใช้กล้อง TP-Link VIGI ดูผ่าน Cloud แบบไม่มี NVR
ลูกค้าบางท่านอาจจะติดกล้องแค่ตัวสองตัว และต้องการกล้องที่มีความละเอียดสูง มีเลนส์รับแสงได้ดีๆ ถ้าจะใช้พวกกล้องที่เป็นรุ่น Smarthome อย่าง TAPO เมื่อเทียบกับกล้องรุ่นที่เป็น VIGI ต่อให้ความละเอียดเท่ากัน แต่ภาพที่ได้ ความคมชัด ภาพ Video ในที่มืด พวก Mode ที่มี AI ต่างๆ สู้กล้องที่เป็นแบบ VIGI ไม่ได้ครับ และยังรองรับ POE ด้วย แต่รุ่นที่เชื่อมต่อ WIFI จะยังไม่รองรับ POE นะครับ
ทีนี้ บางทีเราอยากติดตั้งกล้องซักตัวสองตัว ไม่สะดวกใช้ NVR อาจจะเพราะต้องเดินสาย LAN ไกลๆ กล้อง VIGI Camera สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมี NVR ได้ครับ เพราะที่ตัวกล้องรองรับ Memory ได้สูงถึง 512GB เมื่อ Register เข้ากับ App VIGI ก็ดู Online ผ่าน Cloud ได้เช่นกัน พวก Mode ต่างๆ ดักจับ Event หรือ AI ก็ใช้งานได้ปกติ
บทความนี้ใช้ตัวกล้อง VIGI InSight S345Zi ครับ
ใช้ไขควง 6 เหลี่ยมแถมมาในกล่อง เพื่อใส่ MicroSD
1. ติดตั้ง App VIGI
ติดตั้ง APP ลงใน Smartphone รองรับทั้ง iOS และ Android ถ้ายังไม่มี TP-Link ID Account ให้ทำการสมัครให้เรียบร้อยครับ จากนั้น Login เลือก Organization My VIGI
2. Register VIGI Camera
เข้าระบบด้วยการ Scan QR-Code ที่ตัวกล้อง กำหนด Password กล้อง
- รหัสยาว 9-32 ตัวอักษร
- รหัสต้องประกอบด้วย 1 ตัวใหญ่, 1 ตัวเล็ก, 1 ตัวเลข, 1 ตัวอักขระ
- ห้ามมีตัวเลข หรือ ตัวอักษรที่เรียงกันเกิน 3 ตัว เช่น aaa, abc, cba, 111, 123, 321
- ห้ามมีคำว่า admin
3. Upgrade Firmware
หลังจาก Register VIGI Camera ถ้ามีจุดแดงที่ไข่ปลา แสดงว่ามี Firmware ใหม่ ทำการ Upgrade ให้เรียบร้อยครับ
4. การ Setup กล้อง VIGI
รูปเฟืองมุมขวาบนจะเป็นการ Setup ตัวกล้อง มีรายละเอียดพอสมควร
4.1 Detection
ระบบการตรวจจับ
สามารถเชื่อมต่อการแจ้งเตือน เช่น ส่ง Push Notification ใน Smartphone,ส่ง Email, บันทึกคลิป, กล้องบางรุ่นสามารถเปิดเสียงไซเรนได้ มีไฟวิบวับไปมาเพื่อเตือนผู้บุกรุก
1. Human Detection (ตรวจจับมนุษย์)
กล้องจะใช้ AI แยกแยะรูปร่างมนุษย์จากวัตถุประเภทอื่น เช่น เงา ต้นไม้ รถ ลดการแจ้งเตือน/บันทึกผิดพลาดจากการเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่มนุษย์
2. Vehicle Detection (ตรวจจับยานพาหนะ)
กล้องจะใช้ AI แยกแยะรถยนต์/มอเตอร์ไซค์/รถบรรทุกจากสิ่งอื่นๆ ใช้สำหรับนับจำนวนรถ, ตรวจจับรถเข้าออก, หรือแจ้งเตือน/บันทึกเมื่อมีรถเข้ามา
3. Motion Detection (รตรวจจับการเคลื่อนไหว)
กล้องจะตรวจสอบ “การเปลี่ยนแปลงของพิกเซล” ภายในภาพวิดีโอทีละเฟรม ถ้ามีวัตถุเคลื่อนไหว (เช่น คน รถ สัตว์ เงา) ภาพจะเปลี่ยน ระบบจะแจ้งว่า “มีการเคลื่อนไหว” เกิดขึ้น
4. Camera Tampering (การก่อกวนกล้อง / การพยายามทำให้กล้องใช้ไม่ได้)
จะเป็นการตรวจจับเมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงฉากภาพแบบผิดปกติ ที่เกิดจากการพยายาม “ปิดบัง” หรือ “ทำลาย” กล้อง เช่น เอามือปิดเลนส์, พ่นสี / เทปปิดหน้าเลนส์, หมุนกล้องออกจากตำแหน่งเดิม, ปิดไฟหน้ากล้อง กล้องจะตรวจจับจากการเปลี่ยนแสง สี หรือความคมชัดในภาพที่ลดลงแบบรวดเร็ว
5. Scene Change Detection (ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงฉาก)
กล้องจะใช้ AI ตรวจจับการ พยายามทำลายหรือก่อกวนกล้อง เช่น กล้องถูกหมุน, ปิดเลนส์, เอาสีพ่น, หรือแสงส่องบังภาพ กล้องจะส่งสัญญาณเตือน ป้องกันคนร้ายปิดกล้องก่อนก่อเหตุ
6. Line Crossing Detection (ตรวจจับการข้ามเส้น)
ผู้ใช้ทำการกำหนดเส้นตรงบนเฟรมภาพ หากมีการเคลื่อนไหวเช่นคนหรือรถ ข้ามเส้น กล้องจะส่งสัญญาณแจ้งเตือน/บันทึก ใช้ในงาน เส้นแบ่งเขตคลังสินค้า, ประตูเข้าออก, เขตหวงห้าม
7. Intrusion Detection (ตรวจจับการบุกรุก)
เป็นการกำหนดพื้นที่ต้องห้าม ถ้าใครเข้ามาในพื้นที่นั้น สามารถกำหนดระยะเวลา เช่น อยู่นานกว่า x วินาที หรือเคลื่อนที่มากกว่า Y% ของโซนที่กำหนด กล้องจะส่งสัญญาณเตือน/บันทึก ใช้ในงาน ลานจอดรถส่วนบุคคล, พื้นที่เก็บวัตถุอันตราย, รอบรั้วบ้าน
8. Loitering Detection (ตรวจจับการเดินวน / อยู่ในพื้นที่ผิดปกติ)
หากมีคนหรือรถอยู่ในพื้นที่นานเกินกว่าที่กำหนด กล้องจะส่งสัญญาณเตือน/บันทึก ใช้ในงาน คนยืนเฝ้าตู้ ATM นานผิดปกติ, บุคคลแปลกหน้าเดินวนหน้าร้านทอง
9. Region Entering Detection (ตรวจจับการเข้าโซน)
กำหนดโซนพื้นที่ หากมีใครเข้ามาในโซนที่กำหนดไว้ กล้องจะส่งสัญญาณเตือน/บันทึก ใช้ในงาน คนเดินเข้าห้องเก็บของ, มีคนเปิดประตูห้องเข้ามา
10. Region Exiting Detection (ตรวจจับการออกจากโซน)
หากมีคนหรือรถ ออกจากพื้นที่ที่ถูกกำหนด กล้องจะส่งสัญญาณเตือน ใช้ในงาน ตรวจจับคนแอบออกจากประตูหนีไฟ, รถออกจากพื้นที่เก็บสินค้า
11. Object Abandoned / Removal Detection (ตรวจจับวัตถุถูกทิ้งหรือถูกยกออกไป)
Abandoned: พบวัตถุใหม่ปรากฏและถูกทิ้งไว้ (เช่น กระเป๋า, กล่อง)
Removal: วัตถุที่เคยมีอยู่หายไป (เช่น เครื่องจักรถูกขโมย, สินค้าถูกยกออก)
ใช้ในงาน ในสนามบินเมื่อพบกระเป๋าต้องสงสัย, ร้านค้า/พิพิธภัณฑ์ ตรวจสอบของหาย
12. Abnormal Sound Detection (ตรวจจับเสียงผิดปกติ)
ใช้ไมโครโฟนในตัวกล้อง ตรวจจับเสียงที่มีความรุนแรง/ผิดปกติ เช่น เสียงกรีดร้อง เสียงกระจกแตก เสียงระเบิดหรือปืน
ใช้ในงาน อาคารสำนักงาน, โรงเรียน, โรงพยาบาล
การ Config ส่วนใหญ่ก็จะเป้นการกำหนด สามารถตั้งค่าได้ เช่น พื้นที่ตรวจจับ (Zone / ROI), ระดับความไว (Sensitivity), ช่วงเวลาเปิดทำงาน Event และ การเชื่อมต่อแจ้งเตือน เช่น ส่ง Push Notification บน Smartphone, ส่ง Email, บันทึกคลิป, เปิดเสียงไซเรน ฯลฯ
พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แจ้งเตือนใน Smartphone พอ Click ก็จะไปที่คลิปวีดีโอเหตุการณ์นั้นๆ เลือก Download คลิปเพื่อดูใน Smartphone ได้ง่ายๆครับ
4.2 Recording & Storage
การจัดการบันทึก เลือกบันทึกแบบตลอดเวลา, ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น, กำหนดระยะเวลาที่เก็บ Video, กรณีที่พื้นที่เต็มให้บันทึกทับ
4.3 Active Defense
ตัวกล้อง VIGI บางรุ่น จะมีการตอบสนองกลับ เมื่อพบเหตุผิดปกติ เช่น ไฟแฟลช LED สีขาว หรือ ไฟกระพริบแดง–น้ำเงิน ส่งเสียงไซเรนเตือน / เสียงเตือนที่ตั้งไว้
ตัวอย่างในการใช้งานจริง
มีคนเดินเข้าบ้านตอนกลางคืน กล้องเปิดไฟแฟลช พร้อมส่งเสียงไซเรน
บุคคลแปลกหน้าปรากฏในลานจอดรถ กล้องกระพริบไฟแดง–น้ำเงิน เตือนให้ถอยออก
ตรวจจับคนใกล้ประตูโกดังหลังเวลางาน กล้องส่งเสียงตามที่ตั้งค่าได้
ผู้ดูแลเห็นเหตุการณ์ผ่าน App ใน Smartphone ทำการสั่งเปิดไฟ / เปิดเสียงไซเรนเองจาก App ใน Smartphone ได้
4.4 Video and Display
กำหนดความละเอียดของภาพ, Framerate, การบีบอัดภาพ Video, WDR (Wide Dynamic Range) เทคโนโลยีช่วยให้กล้องมองเห็นได้ทั้งส่วนที่สว่างมากและมืดมากในภาพเดียวกัน โดยไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่ง “มืดเกิน” หรือ “ขาวจ้าเกินไป” เช่นตำแหน่งที่เห็นแสงจากหลอดไฟ
OSD (On-Screen Display) การแสดงข้อมูลทับบนภาพวิดีโอ เพื่อให้ผู้ดูรู้รายละเอียดของกล้องนั้นในขณะดูภาพหรือวิดีโอย้อนหลัง
4.5 Privacy Mask
ฟังก์ชันที่ให้ผู้ใช้ “กำหนดพื้นที่บนภาพวิดีโอให้ถูกปิดทับ” ด้วยแถบสีดำหรือภาพเบลอโมเสก เพื่อป้องกันไม่ให้มองเห็นรายละเอียดในส่วนนั้น โดยกล้องจะ ไม่บันทึกภาพในพื้นที่ที่ถูกปิดบัง ทั้งใน ภาพสด (Live View) และ วิดีโอบันทึก (Playback) เพื่อให้เป็นไปตามหลักความเป็นส่วนตัวและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (เช่น GDPR ในยุโรป หรือ PDPA ในไทย)
4.6 Video Ratation
กลับด้าน/มุม ภาพ Video ที่บันทึก
4.7 Device Sharing
รองรับการแชร์เพื่อดู Video ให้ Account อื่นๆได้
4.8 Alarm Port
ในกล้อง VIGI บางรุ่นจะมี Port เชื่อมต่อกับระบบ Alarm ได้ครับ
ข้อดีของการใช้กล้องบันทึกลง Memory Card ในตัว คือสะดวก ง่าย แต่ข้อเสียคือถ้ากล้องโดนถอดออกไป หมายถึง Memory Card ก็จะไปกับตัวกล้องด้วยครับ ถ้าเป็นงานในบ้าน สำนักงาน โรงงาน มีการติดตั้งกล้องหลายๆจุด แนะนำให้บันทึกลง NVR จะดีกว่าครับ
Facebook comment